กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ซึ่งต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้เกิดประโยชน์ แต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และร่างกายหลายด้าน ปริมาณของกาแฟที่เหมาะสมในการดื่มแต่ละวันนั้นปริมาณมากที่สุดในการบริโภค คือ ไม่ควรเกิน 4 แก้วต่อวัน หรือไม่เกิน 20 ออนซ์ แต่ปริมาณที่เหมาะสมที่สุดเพื่อที่จะทำให้ดื่มกาแฟแล้วได้ประโยชน์นั้นคือวันละ 1-2 แก้ว หรือประมาณ 10 ออนซ์เท่านั้น ซึ่งหากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมแล้วนั้นจะทำให้ได้รับประโยชน์จากกาแฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ เป็นต้น วันนี้จะพาไปร้านกาแฟในกรุงเทพที่คอกาแฟไม่ควรพลาดเลย
พิกัด 10 ร้านกาแฟในกรุงเทพที่คอกาแฟไม่ควรพลาด
- Treat Cafe & Hang out
บรรยากาศโดยรวมของที่นี่บอกเลยว่าเหมือนได้อยู่บ้านสวน ด้านนอกจะมีบ้านกระจกบนต้นไม้ ที่สามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้จริงๆ เครื่องดื่มกาแฟที่ร้านนี้มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย แต่ที่คนส่วนใหญ่นิยมสั่งกันก็เห็นจะเป็น เอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่มอคค่า ชาเขียวเย็น ชาไทยเย็น ส่วนขนม ที่ต้องสั่งให้ได้เลยก็คือ Honey Toast กินคู่กับกาแฟอร่อยอย่างบอกไม่ถูก
- Roots ทองหล่อ
แค่ชื่อร้านก็สื่อถึงความจริงจังด้านกาแฟแบบหยั่งลึกถึงรากเหง้า คือพิถีพิถันทุกกระบวนการ ไม่แปลกใจที่ร้านนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่คอกาแฟ สั่ง “Iced Latte” ใช้เมล็ดกาแฟ Chang Pao จากหมู่บ้านเลอตอโกร จังหวัดตาก Aroma นำเด่น กลิ่นกาแฟหอมแหลมกรุ่น ไม่ขม ไม่เปรี้ยว รสกลมกล่อมกำลังดีแบบไม่ต้องปรุง
- Factory Coffee
ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่ชาวคอกาแฟพูดถึงกันมากอีกหนึ่งร้านในกรุงเทพฯ เมนูโดดเด่นดาวรุ่งประจำร้าน ก็คือ Espresso Filter Drip แนะนำให้เลือก Aeropress บาริสต้าจะเลือกใช้เอสเปรสโซ่คุณภาพดีมาผ่านกระบวนการพิเศษต่าง ๆ และรูปแบบการนำเสนอที่แปลกตา รับประกันเลยว่าอร่อย เข้ม หอมกลิ่นคั่วสุดๆ
- Blackhills bkk
ร้านกาแฟที่เน้นความเรียบง่าย สามารถนั่งชิลหน้าเคาท์เตอร์บาร์แล้วชมบาริสต้าค่อยๆ ชงเครื่องดื่มให้เราได้อย่างใกล้ชิด เมนูของร้านมีคอนเซ็ปต์คือ back to basic เป็นเมนูกาแฟที่เรารู้จักกันดี มีเสิร์ฟทั้งร้อนและเย็น เมล็ดกาแฟมีให้เลือกจากทั้งในและต่างประเทศ สามารถเลือกวิธีชงได้ทั้งแบบดริป แอโรเพรส โมก้า หรือไซฟอน
- Van Hart Coffee
อีกหนึ่งร้านกาแฟในกรุงเทพบรรยากาศดีสไตล์นั่งชิลล์ๆ หรือนั่งทำงานยาวๆก็ยังได้ สำหรับด้านกาแฟและรสชาติ ที่นี่มีความพิเศษตรงที่เป็นกาแฟออร์แกนิค จากอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นกาแฟ Arabica ที่ปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ และเม็ดเบอร์รี่กาแฟถูกคัดด้วยมือทุกเมล็ด จนได้ออกมาเป็นเมล็ดกาแฟพรีเมียมสุดๆ เมื่อเริ่มจิบจะรับรู้ถึงรสชาติที่แสนอร่อย
- % ARABICA ICONSIAM
การออกแบบก็สวยงามมีความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น และมีความเท่ๆ มินิมอล สีขาวคลีนๆ ในส่วนของเครื่องดื่มก็มีเมนูกาแฟให้เลือกเยอะ ดื่มง่ายๆ กาแฟไม่แรงมาก เลือกเมนูดื่มได้ตามความชอบเลย และในส่วนสำหรับใครที่ไม่ดื่มกาแฟ เขาก็มีเมนู Matcha Latte และ Lemonade ให้เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน
- Sentimental Café
มีเมนูกาแฟให้เลือกเพียบ ความดีงามก็คือกลิ่นคั่วชัดเจน รสชาติเข้มละมุน ลงตัวสุดๆ ของกาแฟทุกตัวที่นี่ รวมไปถึงการเปิดเพลงแจ๊สยุคเก่าบรรเลงในร้านเบาๆ เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ลับๆ ที่รสชาติไม่ลับเลย
- Labyrinth Café
เมนูของร้านขึ้นมาดูจะเห็นว่ามีให้เลือกไม่มากเท่าไหร่ เพราะที่จริงแล้วความหลากหลายอยู่ที่ชนิดของเมล็ดกาแฟต่างหาก ด้วยความตั้งใจเป็นคาเฟ่แบบ slow bar จึงอยากแนะนำให้ทุกคนลองเมนู Pour Over Coffee กาแฟดริปที่มีเมล็ดจากแหล่งต่างๆ หมุนเวียนมาให้ลองกันตลอด สามารถนั่งดูวิธีดริปกาแฟและพูดคุยเรื่องกาแฟกับบาริสต้าได้ นอกจากได้รสชาติที่ดีแล้วยังได้เห็นเทคนิคดีๆจากบาริสต้าด้วย
- Library Café
หากพูดถึงคาเฟ่แสนสงบ อาหารอร่อย และเครื่องดื่มรสชาติถูกปาก ก็ต้องนึกถึงที่นี่ ด้วยบรรยากาศร้านแบบห้องสมุด สำหรับคนที่อยากนั่งอ่านหนังสือ ทำงาน จิบกาแฟ และยังมีโซนด้านนอกที่เป็นพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนหย่อนใจ
- Coffeelismstand
มาในสไตล์ Cafe Stand เมนูเอสเพรสโซ่ทุกตัวของที่นี่ ถือเป็นที่สุดประจำร้าน หอมทุกช็อตที่บาริสต้ากด แถมยังเข้มทุกแก้วแน่นอน ส่วนเรื่องราคาก็สบายกระเป๋าสุดๆ